วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ชีวิตติดตามหงส์

หงส์มาเยือน

กระผมออกเดินทางครั้งนี้เพื่อติดตามทีมรักเฝ้าเชียร์มาตั้งแต่ประมาณปี 90 ซึ่งเป็นการได้แชมป์ลีกสูงสุดของประเทศอังกฤษครั้งสุดท้ายพอดี แม่งนานไปละ จนแฟนผีล้อเลียนต่างๆนาๆ ซึ่งแต่ก่อนผีเอง มีถ้วยแชมป์สูงสุดอันน้อยนิดแต่ก็ต้องยอมรับในความสามารถของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ปลุกเสกทำให้ทีมดาดๆ อย่างผีแดงกลายมาเป็นทีมยิ่งใหญ่เทียบเท่าลิเวอร์พูล ประกอบกับทีมผู้บริหารมีวิสัยทัศน์มองการไกลสามารถบริหารทีมแบบธุรกิจควบคู่กับความสำเร็จในสนามอันนี้ชื่นชม และต่อยอดความสำเร็จด้วยฐานของแฟนบอลทั่วโลกเบียดสูสีกับลิเวอร์พูล สำหรับคู่อริตลอดกาลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดพวกเขามั่นคงล่วงหน้าด้านธุระกิจ (ดีละจะได้สมนำ้สมเนื้อหน่อย ปลอบใจตูเองฮ่าๆๆ)


ครับผมก็เดินทางถึงกรุงเทพมหานครด้วยสายการบิน"อู๊ดๆแค่มีตูดก็บินได้"แล้วผมก็เที่ยวชมสภาพแวดล้อมของเมืองบางกอกเล็กน้อย ก่อนถึงสนามประมาณ 17:30 น เพื่อเยี่ยมชมบรรยากาศรอบๆสนาม ของแฟนบอลทั้งชาวไทยและต่างชาติ ก็มีหลากหลายครับ ตั้งแต่ลูกเด็กเล็กแดง ดำ ขาว รวมสาวๆ สวยๆ ขาวๆมากมาย และขอชื่นชมสาวๆสวยๆ ทั้งหลายเดี๋ยวนี้ไม่ได้ติดตาม football เฉพาะว่านักฟุตบอลหล่อล่ำอย่างเดียว พวกเธอมีความรู้เรื่อง football และรู้จักนักเตะดีพอสมควร ซึ่งเป็นการดีสำหรับเมืองไทยด้วยเพราะผมมองว่าขณะนี้กระแส football ไทยกำลังมา น่าจะจับกองเชียร์เหล่านี้ให้เป็นฐานแฟนบอลอันมั่นคงเพื่อทำตามเป้าหมายของไทยที่จะไปบอลโลกในอีก 20 ปีข้างหน้า เพราะความสำเร็จจะมีไม่ได้ถ้าไม่มีแฟนบอลที่รักและเชียร์ทีมด้วยสปิริตความทุ่มเท พอๆกันกับนักฟุตบอล  สภาพแวดล้อมก่อนเข้าสนามก็มีบูธเล่นเกมส์ มีพริตตี้ และพวกแปลกๆ มาคอยถ่ายรูป ซึ่งเป็นสีสันของการเชียร์ football อยู่แล้วครับ 



จากนั้นเข้าสู่สนามก่อนเวลาเตะจริงคือ 20:00 น ก็มีนักเตะทั้งสองฝั่งลงวอร์มยืดเส้นยืดสายในสนาม ครั้งนี้ผมจับตา หู จมูก ร็อดเจอร์ เป็นพิเศษว่าเขาจะมีแบบแผนทิศทางของทีมเป็นอย่างไรสำหรับเป้าหมายในการลุ้นแชมป์หรือติดอันดับ 1 ใน 4 ของปีนี้ ครับก่อนเกมจะเริ่มซึ่งต้องมีพิธีการเยอะแยะ จนเป็นเอกลักษณ์ของไทยแลนด์เวลาจัดการแข่งขันใดๆ เข้าสู่สนามเริ่มเกมกันเลย ฝั่งลิเวอร์พูลเหมือนจะมาด้วยระบบ 4-4-2 แบบไดมอนด์โดยมี ลูคัส เป็นกลางตัวรับและแบล็คซ้ายหน้าใหม่เป็นเด็กปั้นอนาคตน่าจะไกลไว้ก่อน ชุดนี้ผสมผสานด้วยนักเตะเก่าเพื่อพิสูจน์ตัวเองแล้วก็ดาวรุ่งซึ่งคาดว่าจะได้ร่วมทีมชุดใหญ่และ Ing นักเตะใหม่ รูปเกมก็เป็นไปอย่างรวดเร็วต่อบอลสั้นเน้นเพรสซิ่งเข้าทำเร็วด้านข้างและตัดเข้ากลางซึ่งดูแล้วมีความกระฉับกระเฉงว่องไวตั้งแต่นาทีแรก และเป็นทางฝั่งหงส์ได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วจากการต่อบอลกันสวยงามและหลุดไปของ. มาโควิชแตะหลบผู้รักษาประตูขึ้นนำทีมรวมดาราไทยลีกทรู ผ่าน 20 นาทีก็เป็นหงส์ยังต่อบอลด้วยความแม่นยำกว่าแต่ก็จะมีความผิดพลาดจากเด็กดาวรุ่งกองกลาง และประสานงานแดนหน้ายังไม่ลงตัว ก่อนจะนำ 2-0 ด้วยลูกเตะมุม. โดย ซาโก ข่าวว่าหลังแข่งจบจัดเลี้ยงโต๊ะจีนเพื่อนทั้งทีมดีใจที่ทำประตูได้ฮ่าๆ ที่เหลือก่อนหมดครึ่งแรกรูปเกมก็เป็นไปด้วยความระมัดระวังมีจังหวะบุก ของฝั่งไทยเล็กน้อยแต่ก็ไม่เป็นผลใดๆ จบครึ่งแรกลิเวอร์พูลนำ 2-0 ช่วงพักครึ่งก็มีฝนโปรยปรายเป็นสัญญาณเตือนลงมาเล็กน้อยแต่บรรดากองเชียร์ฝั่งไม่มีหลังคาทั้งหมดก็ยังยืนหยัดให้กำลังใจสู้ต่อไป


กลับมาเริ่มครึ่งหลัง ร็อดเจอร์ จัดทีมระบบ 4-3-3 โดยน่าจะเป็นผู้เล่น ชุดนี้ที่จะเป็นตัวหลักสำหรับสู้ศึกในฤดูกาลใหม่ นำโดย แอนเดอร์สันกัปตันทีม  ลัลลาน่าและ โอริกกี ศูนย์หน้าตัวใหม่ รูปเกมมีความรวดเร็วยิ่งกว่าเดิมการเคลื่อนตัวของผู้เล่นช่วยกันหาที่ว่าง เล่นเต็มพื้นที่ของสนาม ทำให้ง่ายต่อการออกบอลเร็วและวิธีเข้าทำก็หลากหลายขึ้น ทันใดนั้นฝนและลมแขกไม่ได้รับเชิญร่วมมือกระหน่ำลงมายังสนาม แต่ก็มิอาจพรากความตั้งใจ ของกองเชียร์พันธุ์แท้รวมถึงผมได้ ผมหาถุงพลาสติกคลุมหัวแทนหมวกส่วนอื่นๆเปียกหมดไม่เหลือ เริ่มหนาวขนแขนก็สแตนอัฟโดนพร้อมเพลียง และมีกองเชียร์บางส่วนทยอยหลบฝน ก็ว่ากันไปคับ ชมเกมส์กันต่อ จอห์นไอบีซึ่งจะมาแทนสเตอร์ลิงมีบทบาทพอดู เร็ว คล่องตัว แต่ยังขาดจังหวะตัดสินใจเล็กน้อย ส่วนจังหวะได้ประตูจากการกระทำที่สวยงามอีกครั้งโดย แอนเดอร์สัน จ่ายไขว้หลังให้ ลัลลาน่าทำเป็นประตู ส่วนโอริกี มีบทบาทสำหรับแผนการเล่นแบบนี้เป็นกองหน้าตัวใหญ่บังบอลได้ ไปกับบอลดีเคลื่อนที่เร็ว จังหวะจบสกอร์ ต้องเติมน้ำปลา มะนาว อีกหน่อยคับ แต่ก็มาทำประตูได้ด้วยลูกโหม่งก่อนหมดเวลาเล็กน้อย..จบ การแข่งขันลิเวอร์พูลชนะ 4-0 คว้าแชมป์ ได้ชูถ้วยซึ่งว่ากันว่าทีมใดที่มาเมืองไทยและได้แชมป์กลับไปนั้น ไม่มีทีมใดสามารถกลับไปคว้าแชมป์ลีกได้เลย แม้แต่ยอดทีมอย่างบาซ่าก็เสียท่าให้อาถรรพ์ไทยแลนด์มาแล้ว   (ถึงคราที่อาถรรพ์เยือนไทยแลนด์จะถูกทำลายแล้วซินะ..หึๆ)


สรุปร็อดเจอร์ มาอุ่นเครื่องครานี้เตรียมตัวมาดีโดยลองทีม ครึ่งแรกและครึ่งหลังชัดเจน ที่แน่ๆเราน่าจะได้เห็นกองหลัง 4 คนละ คาดว่าฤดูกาลนี้จะเป็นโอกาสสุดท้ายของ ร็อดเจอร์ หรือไม่ก็ตัดสินกันแค่ 7 นัดแรกของฤดูกาลเท่านั้น..ไงก็เชียร์ต่อไปคับ. 

         ...you'll never walk alone...

ปล. กระผมเปียกปอนไปหมด ขอบคุณเพื่อนๆ รัตน์ เป้า (ยังมีคนคบโว้ยยยย) ที่ให้สถานที่พักพิง เลี้ยงข้าว ขอบคุณมากๆคับ...

วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ปั่น-เข็นพิชิตเขา

ปั่น-เข็นพิชิตเขา

สวัสดีครับวันนี้นำเสนอการปั่นและเข็นโหดแต่สนุกแบบภูเขาอีกสักครั้งครับ ด้วยการนำสมาชิกใหม่ที่ต้องการเสียแรงให้สายโหด เพื่อทดสอบสมรรถภาพของตัวเองว่าไหวแค่ไหน 


ครับก็เริ่มปั่นกันเลยครับโดยการปรับเกียร์ให้เบาสุดคือ จานหน้าเล็กสุดหลังใหญ่สุด เพราะถ้าเราเกิดไปปรับเปลี่ยนเกียร์ระหว่างทางลาดชันอันตรายมาเยือนครับ จะมีอาการเกียร์สะดุด เพลาติด คลัชไม่จับและเป็นเหตุให้หัวทิ่มลงข้างทางอย่างง่ายดาย!!.. ปั่นกันต่อไปครับก็ถึงจุดพักแรก ก็จัดการกินทุเรียนกันตามสบายคล้ายๆเป็นสวนของเราเอง พร้อมกับถ่ายรูปสภาพแวดล้อม ซึ่งระดับการหายใจของแต่ละคนในขณะนี้ มีติดขัดบ้างแต่ถ้ามีจมูกเพิ่มอีกสัก 2 รูนี่ แหล่มเลยพี่น้องเอ้ย. 



ก็ปั่นกันต่อคับ สัก 200 เมตร ก็ลงเข็นตาม
สภาพเส้นทางที่บังคับ(ตูไม่อยากเข็นเล้ยยยยปั่นสบายอยู่แล้ว อิอิ) ก็มาถึงจุดพักที่ 2 ซึ่งมีผู้ดูแลสวนรอลุ้นและเชียร์ให้กำลังใจพวกเราอยู่ ณ จุดจุดนี้ได้ พบเพื่อนต่างวัยซึ่งใจดี เค้าแนะนำวิวสวยๆ ให้ดูสภาพแวดล้อมที่พวกเขาพักอาศัยแจกทุเรียน สนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันสักพัก ซึ่งเราได้รู้เดี๋ยวนี้เองว่าการถ่ายรูปด้วยโน๊ตบุ๊คนั้นสวยงามฝุดๆ(ลุงที่มีสุราในมือเข้าใจว่าโทรศัพท์คือโน้ตบุ๊ค) และพี่พจน์ก็ยื่นโน้ตบุ๊คให้แกช่วยถ่ายรูปตามความต้องการของแก จนพวกผมจะตกเหวอยู่แล้วก็ยังไม่โดนใจ พอคับพอเถอะเราเข้าใจลุง ว่าลุงไม่ถนัดด้านนี้ซึ่งผมก็ไม่ถนัดดูสวนเช่นกัน...




จากนั้นพวกเราก็เข็นกันต่อ เส้นทางยังเป็นทางเล็กชันลื่นด้วยตะใคร่น้ำ และต่อด้วยดินแดงเหนียว สองข้างรกด้วยหญ้าและต้นไม้เล็ก แต่ก็สามารถปั่นได้บ้างตามความยากลำบากของเส้นทาง เราปั่นผ่านลำธารเล็กๆ และก็ต้องเข็นกันต่อ เพราะเจอดินเหนียวไม่ไหวจะเคลียร์ เดินไปบ่นไม่ได้ พูดไม่ออก หายใจไม่ทัน 55555...ไม่รู้จะพูดไรกันขำไม่ออก 



แต่ก็มาถึงจุดพัก ป่าตองซิปลาย จากนี้เป็น
ทางสบายคอนกรีตลงเขาล้วนๆ มีเส้นทางขาดบ้างและโขดหินอันตรายพอตัว เพราะขณะที่เราปั่นจักรยานลงเขา เราต้องควบคุมเบรคหน้าเบรคหลังให้สมดุลกัน แนะนำให้ยืนและให้ก้นเลยมาข้างหลังเบาะสักเล็กน้อย เพื่อเพิ่มการทรงตัวเอียงซ้าย-ขวาตามจังหวะของถนน ที่สำคัญใจต้องเกินร้อยและพร้อมไปเตะขอบฟ้านะ อย่าเเตะและแถกับถนน...


ระหว่างนั้นก่อนถึงถนนใหญ่ก็มีน้ำตกไม่ใหญ่มาก ไม่พลาดคับ"เล่นซิครับรอเชี้ยไรอยู่" เพิ่มความสดชื่นได้อย่างดีแท้ เสร็จเรื่องก็เดินทางต่อปั่นลงสู่ถนนใหญ่หาดกะหลิม แวะเติมพลังกันเล็กน้อยก่อนปั่นต่อไปหาดป่าตอง และข้ามเขากลับมายัง กะทู้ จบทริปด้วยความสุข สนุก หมดแรง อิ่ม แยกย้ายกลับบ้าน ขอบคุณเพื่อนร่วมทางคับ...




ขอบคุณเพื่อนๆร่วมทางอีกครั้งและภาพถ่ายสวยๆจากทุกคนคับ...




วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ปั่นไปรุนไป


สวัสดีครับวันนี้นำเสนอปั่นภูเขาแบบมัน ฮา และชิมของกินไปเล็กน้อยครับ เริ่มรวมพลสมาชิกประมาณ 4 คนรวมอายุ 100 กว่ากระผมเด็กสุดเริ่มกันเลยเส้นทางจากขึ้นเขาความลาดชันตอนแรก 20% ครับ เป็นแบบถนนคอนกรีตมีความลื่นเล็กน้อยถึงปานกลางปั่นกันไปครับตามกระบวน 1234 ผ่านไปด้วยดีไม่ชันเยอะ แต่ทันใดนั้นเลี้ยวซ้ายขึ้นเขาความชันเพิ่มขึ้นเป็น 45 องศา หรือ 50 ไม่รู้ไม่ได้วัด ฮ่าๆ..ครับพอปั่นไปเรื่อยๆในที่จุดพักห่างจากพื้นราบสัก500เมตรได้ครึ่งทางครับเรียบร้อยรุนครับพี่น้อง ไม่ไหวเพราะว่าปั่นไม่ไหวเถลไถลลงกลางทางขนาดลงรุนแล้วยังรู้สึกว่าเดินไม่ไหวหนักเหมือนแบกข้าวสารสัก 2 กระสอบ และเราก็ยุติการปั่นเพื่อเติมออกซิเจนเข้าปอดก่อนจอตาจะดับ ทันใดนั้นซ้ายมือของเพื่อนผมมีทุเรียนวางอยู่กะพื้นข้างทางป่าหญ้าและตอนนั้นไม่มีมนุษย์ลุงหรือป้าณบริเวณนั้น จึงจัดการกับทุเรียนทุ่มลงพื้นคอนกรีตสุดแรง!!..แตกสิครับก็เรียบร้อยได้ลองนั่งกินและชิมทุเรียน ตามอัธยาศัยชิวๆ จัดการไปทั้งหมด 4 ลูก 



จากนั้นขบวนก็เดินทางต่อด้วยการปั่นไปเรื่อยๆตามความชันของพื้นที่และทางไม่กว้างมากประมาณ 50 เซนติเมตร เส้นทางส่วนใหญ่เป็นดินแดงดินภูเขา และฝนก็ตกโปรยปรายหนักลงมาเพิ่ม แต่ก็เป็นการดีเพราะเหมือนเพิ่มความชุ่มฉ่ำให้กับนักนักปั่นเราก็ไปกันต่อลุยป่าหญ้าสองข้างทาง



ต่อไปเป็นทางชันขึ้นไปอีกแต่มีความชันขึ้นกว่าเดิมด้วยดินแดงและฝนเริ่มโปรยปราย แต่อุปสรรคเล็กน้อยเหล่านี้มิได้ทำให้เราย่อท้อแต่อย่างใดมีแต่เพิ่มความท้าทาย มีพี่ท่านนึงลุงพจน์ปั่นไปขำไปเพราะว่าเจอเนินและลื่นไถลลงไปนอนแอ้งแม้งอยู่ข้างทางสภาพเหมือนคนตกตึกนอนแผ่หรา จากนั้นพวกเราก็ปั่นกันต่อถึงยอดเนินและเริ่มลงเขา แต่สภาพทางยังแคบเท่าขนาดรถจักรยานเหมือนเดิมและเต็มไปด้วยหญ้านานาชนิด ปรากฎว่าทันใดนั้นลุงทิน ก็ทำการสละจักรยานกลางอากาศด้วยการบินปล่อยให้จักรยานไปตามทางอย่
างเดียวดาย หลังจากรวบรวมสมาธิกันเราก็ไปกันต่อครับ เส้นทางยังใหม่ดิบมีร่องรอยคนผ่านน้อยครับ มีโขดหิน ลำธารเล็กๆมีพันไม้เลื้อยที่ผมไม่รู้จัก มีสวนทุเรียนและก็ยุงเป็นเพื่อน เราเริ่มเจอผู้คนซึ่งน่าจะเป็นเจ้าของสวนทุเรียน พวกเราทักทายพูดคุยตามอัธยาศัยหารู้ไม่ว่าแน่นท้องอยู่ด้วยทุเรียนของเค้าแล้วก็ถามเส้นทางไปป่าตองว่าไปยังไงจากนั้นก็จากลาด้วยความสันติ แกให้กำลังใจเล็กน้อยเราก็ไปกันต่อครับผม  จนไปเจอเส้นทางที่เริ่มสบายคอนกรีตเพราะว่าเป็นการเปิดเส้นทางของPatong zip line ซึ่งเจ้าของเค้าใจดีเช่นเคยจัดน้ำเบียร์ให้พวกเราและถ่ายรูปสถานที่พร้อมคำเชื้อเชิญ ผ้าเย็นต่างๆอีกมากมายจากนั้นเราก็จากลาลงเขาป่าตองสู่ถนนใหญ่ปั่นข้ามเขากลับกะทู้ด้วยสภาพอิดโรยเหลือแรงไว้ใช้ซัก 15% เวลาในการใช้ปั่นทั้งหมดประมาณ 3 ชั่วโมงแต่เป็น 3 ชั่วโมงที่ คุ้มค่าเหนื่อยสนุก ฮา อิ่มและเจอประสบการณ์ใหม่ๆ ที่รับรองว่าไม่สามารถหาซื้อได้จากที่ไหนเป็นแน่แท้ ขอบคุณเพื่อนร่วมทางคับ...







วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

บทเริ่มคนเจ้าชู้ 1

ความเจ้าชู้จริงๆความเจ้าชู้นั้นมีทั้งผู้หญิงและผู้ชายแต่ในบทความนี้เราว่ากันด้วยเรื่องผู้ชายล้วนๆก่อน ว่าด้วยความเจ้าชู้ของไอ้โจ๊กเริ่มจำความได้ก็เป็นมาตั้งแต่เด็กละ 6 ขวบ 7 ขวบชอบอยู่รวมกลุ่ม ทำหรือไปไหนกับผู้หญิงชอบเล่นโดดยางชอบทำกิจกรรมกับผู้หญิงตั้งแต่เด็ก ไอ้โจ๊กเวลาอยู่กับกลุ่มผู้หญิงก็เริ่มหาเศษหาเลยไปเรื่อยๆเบียดนิดๆหน่อยๆเดินชนนู่นนี่นั่น มันก็มีความสุขเล็กๆออกแนวโรคจิตนิดๆ แต่ด้วยในวัยเด็ก เป็นความรักแบบป๊อบปี้เลิฟไม่มีการร่วมเพศหรืออะไรตามวัย โจ๊กเริ่มเข้ามัธยมตามสัญชาตญาณความเจ้าของมันซึ่งไม่เคยจางหายได้เลือกไปเรียนโรงเรียนสตรีซึ่งสมัยนั้นเป็นโรงเรียนผู้หญิงล้วนผู้ชายไม่ค่อยจะเรียนกัน เข้าทางครับเค้าเรียกแบบนี้เข้าทาง ไอ้โจ๊กได้อยู่ห้องที่มีผู้หญิง 30 คนผู้ชาย 4 คนและเป็นผู้ฉริง1คน ..หวานเจี๊ยบสิครับก็เลยอยู่อย่างมีความสุขอิ่มเอมในทุกๆวันที่เรียน แต่ก็ไม่ได้จีบใครเป็นพิเศษ. เท่ห์มาก สาวรุมจีบกันตรึม ทำอะไรก็เด่น. ก็แน่นอนมีผู้ชายกัน 3 คน แต่ตลอดเวลาที่เรียน3ปีสรุปได้เพื่อนครับ. เพราะสนิทกันเกินจะจับนมเบียดอะไรก็เบียดไป เพื่อนหญิงไม่ถือสาซะงั้น เฮ้ออออออ...ตกลงว่าได้กลายเป็นเพื่อนกันหมดไม่มีชู้สาวสำหรับ มัธยม เลยจบแค่ ม3 คับ....